ซีเอสเค พาร์ทซัพพลาย ร้านขาย อะไหล่ปั๊มลม screw คุณภาพสูง เทียบเท่า อะไหล่ของแท้ โทรสอบถาม 0824425442  สามารถใช้กับปั๊มลมทุกยี่ห้อ มาตรฐานคงเดิม ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรองอากาศ, ไส้กรองน้ำมัน, ไส้กรองแยกน้ำมัน , น้ำมัน รวมถึงอะไหล่อื่นๆของปั๊มลม ทุกยี่ห้อ

ปั๊มลมแบบ Screw หรือ Screw Air Compressor เป็นเครื่องอัดอากาศที่ใช้สกรูหมุนเพื่อบีบอัดอากาศ โดยปั๊มลมประเภทนี้มีชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ต้องได้รับการบำรุงรักษาและเปลี่ยนตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้การทำงานของเครื่องมีประสิทธิภาพสูงสุด อะไหล่หลักที่สำคัญของปั๊มลมแบบสกรูมีดังนี้:

1. Air Filter (ไส้กรองอากาศ)

• ทำหน้าที่กรองอากาศที่เข้าสู่ปั๊มลม ป้องกันฝุ่นผงและสิ่งสกปรกเข้าสู่ภายในเครื่อง
• การบำรุงรักษา: ควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศตามระยะเวลา เพื่อป้องกันการอุดตันที่อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

2. Oil Filter (ไส้กรองน้ำมัน)

• ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกออกจากน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้ภายในปั๊มลม เพื่อลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายใน
• การบำรุงรักษา: ควรเปลี่ยนตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อให้ระบบหล่อลื่นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

3. Oil Separator (ตัวแยกน้ำมัน)

• ทำหน้าที่แยกน้ำมันออกจากลมอัด เพื่อให้ลมที่ถูกส่งออกไปใช้งานมีความสะอาดและปลอดจากน้ำมัน
• การบำรุงรักษา: ควรเปลี่ยนไส้กรอง oil separator เมื่อถึงเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันน้ำมันปนเปื้อนในลมอัด

4. Lubricating Oil (น้ำมันหล่อลื่น)

• น้ำมันหล่อลื่นมีความสำคัญในการลดการสึกหรอของชิ้นส่วนที่หมุนและเคลื่อนไหวภายในปั๊มลม
• การบำรุงรักษา: น้ำมันหล่อลื่นควรเปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนด (เช่น ทุกๆ 2,000-8,000 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) และควรใช้น้ำมันที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับปั๊มลมนั้นๆ

5. Screw Element (สกรูหรือโรเตอร์)

• ชิ้นส่วนหลักของปั๊มลมสกรู ประกอบด้วยสกรูเพศผู้และเพศเมียที่หมุนเพื่อลดปริมาตรและบีบอัดอากาศ
• การบำรุงรักษา: โรเตอร์สกรูควรได้รับการตรวจสอบสภาพอย่างสม่ำเสมอ หากมีการสึกหรอหรือชำรุด ควรเปลี่ยนหรือซ่อมแซม

6. Oil Cooler (หม้อน้ำหล่อเย็นน้ำมัน)

• ทำหน้าที่ระบายความร้อนจากน้ำมันหล่อลื่นภายในปั๊มลม โดยการนำพาความร้อนไปยังหม้อน้ำเพื่อให้ระบบหล่อลื่นทำงานได้ดี
• การบำรุงรักษา: ควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนหม้อน้ำหล่อเย็นเมื่อมีการสะสมของคราบสกปรกหรือมีปัญหาในการระบายความร้อน

7. Check Valve (วาล์วกันกลับ)

• ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้อากาศที่ถูกบีบอัดไหลย้อนกลับเข้าสู่ระบบปั๊มลม
• การบำรุงรักษา: ตรวจสอบวาล์วเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถปิดสนิทได้ ไม่มีการรั่วซึม

8. Pressure Switch (สวิตช์ควบคุมความดัน)

• ทำหน้าที่ตรวจวัดและควบคุมระดับความดันภายในระบบปั๊มลม เพื่อป้องกันไม่ให้ความดันเกินหรือต่ำกว่าที่กำหนด
• การบำรุงรักษา: ควรตรวจสอบการทำงานของสวิตช์ควบคุมความดันอย่างสม่ำเสมอ

9. Thermostatic Valve (วาล์วควบคุมอุณหภูมิ)

• ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของน้ำมันหล่อลื่นเพื่อให้ระบบทำงานในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสม
• การบำรุงรักษา: ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าวาล์วสามารถเปิด-ปิดได้อย่างถูกต้องเพื่อป้องกันการทำงานเกินร้อน (Overheating)

10. Drive Belt (สายพาน)

• สายพานทำหน้าที่ถ่ายโอนกำลังจากมอเตอร์ไปยังโรเตอร์สกรู
• การบำรุงรักษา: ควรตรวจสอบความตึงของสายพานและเปลี่ยนเมื่อสายพานสึกหรอหรือยืดตัว

11. Safety Valve (วาล์วนิรภัย)

• ทำหน้าที่ระบายความดันอัตโนมัติเมื่อความดันภายในระบบเกินขีดที่กำหนด เพื่อป้องกันการระเบิดของปั๊มลม
• การบำรุงรักษา: ควรตรวจสอบและทดสอบการทำงานของวาล์วอยู่เสมอ

12. Control Panel (แผงควบคุม)

• ใช้สำหรับควบคุมการทำงานของปั๊มลม เช่น การเปิด-ปิด การตั้งค่าความดัน และการแสดงผลการทำงานของเครื่อง
• การบำรุงรักษา: ควรตรวจสอบและรักษาสภาพแผงควบคุมให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ

13. Gaskets and Seals (ปะเก็นและซีล)

• ใช้ป้องกันการรั่วซึมของอากาศและน้ำมันในจุดเชื่อมต่อของชิ้นส่วนต่างๆ
• การบำรุงรักษา: ควรเปลี่ยนปะเก็นและซีลเมื่อพบว่ามีการรั่วซึมหรือสึกหรอ

14. Motor (มอเตอร์)

• มอเตอร์เป็นส่วนที่ขับเคลื่อนการทำงานของปั๊มลม ควรเลือกมอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะสมกับการใช้งาน
• การบำรุงรักษา: ควรตรวจสอบและบำรุงรักษามอเตอร์ตามคำแนะนำของผู้ผลิต

15. Solenoid Valve (วาล์วโซลินอยด์)

• วาล์วที่ทำหน้าที่เปิด-ปิดการไหลของอากาศหรือน้ำมันในระบบปั๊มลม โดยควบคุมด้วยไฟฟ้า
• การบำรุงรักษา: ตรวจสอบการทำงานของวาล์วเพื่อป้องกันปัญหาการทำงานผิดปกติ

การดูแลรักษาและเปลี่ยนอะไหล่ของปั๊มลมแบบสกรูอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและทำให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

พลังงานไทย กระทรวงพลังงาน